การเมืองท้องถิ่น
สส.ตราด ติดตามงานก่อสร้างถนนผังเมือง หลังน้ำท่วม
สส.ตราด นำทีมติดตามงานก่อสร้างถนนผังเมือง หลังน้ำท่วม ประชาชนเดือดร้อน ผลกระทบจากการก่อสร้าง ขณะผู้รับเหมา มีแผนเร่งด่วนระบายน้ำหน้าฝน และเพิ่มเติมระบบระบายน้ำโครงการ
ตราด วานนี้ นายศักดินัย นุ่มหนู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตราด พร้อมทีมงาน ส.ส.ตราด นายสุธี ทำประโยชน์ สจ.เขาสมิง เดินทางติดตามโครงการก่อสร้างถนนสาย ก1 ข และ ค1 ผังเมืองรวมเมืองตราด อ.เมือง จ.ตราด ที่ห้องประชุมสำนักงานควบคุมโครงการฯ ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด โดยมีผู้แทนจากกรมทางหลวงชนบท ผู้แทนผู้รับเหมา สำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดตราด รวมบรรยากาศสรุปและรายงานความคืบหน้าโครงการ
ตัวแทนกรมทางหลวงชนบท ระบุว่า ปัจจุบันโครงการก่อสร้างถนนสาย ก1 ข และ ค1 ผังเมืองรวมเมืองตราด ก่อสร้างไปได้แล้ว 16 % เร็วกว่าแผน 0.027 % อุปกรณ์ในการก่อสร้าง มี 2 เรื่อง คือ ปัญหาพื้นที่โครงการติดอยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้ และ งานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โดยเรื่องที่ 2 สามารถแก้ไขได้แล้ว เหลือปัญหาพื้นที่ป่า ที่มีเส้นทางผ่าน 3 ป่า คือ เขตป่าสงวนแห่งชาติ(ป่าเสม็ด) เขตป่าชายเลน และเขตสวนป่าปลูกท่ากุ่มโนโบรุ อุเมดะ รวมเนื้อที่เกือบ 30 ไร่ ซึ่งทั้ง 3 ป่า อยู่ระหว่างการยื่น EIA
อีก 1 เรื่องที่ทางโครงการพิจารณาเร่งด่วน คือการแก้ไขปรับปรุงระบบระบายน้ำของโครงการ จำนวน 3 จุด คือ จุดที่ 1 สาย ก1 กม.ที่ 0+600 ถึง กม.ที่ 0+900 จุดที่ 2 สาย ข และ ค1 กม.ที่ 4+550 ถึง กม.ที่ 4+800 เนื่องจากมีปัญหาน้ำท่วมขัง เนื่องจากระบบระบายที่ออกแบบไว้ อาจจะระบายน้ำได้ไม่ดีพอ จึงออกแบบระบบระบายน้ำเพิ่มเติม จุดที่ 3 สาย ข และ ค1 กม.ที่ 4+550 ถึง กม.ที่ 4+800 มีปัญหาท่อลอดเหลี่ยม เนื่องจากแบบเดิมมีประตูระบายน้ำ 2 ช่อง และแบบใหม่จะเพิ่มเป็น 3 ช่อง เพื่อไม่ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือนร้อนในช่วงที่หน้าฝน
หลังจากนายศักดินัย นุ่มหนู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตราด พร้อมคณะทำงาน ผู้แทนจากกรมทางหลวงชนบท ผู้แทนผู้รับเหมา สำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดตราด เดินทางลงพื้นที่จริง เพื่อดูสภาพปัญหาจริง ซึ่งเบื้องต้น ส.ส.ตราด ได้เน้นย้ำและฝากผู้รับเหมา แก้ปัญหาน้ำท่วมขังให้พี่น้องประชาชน ที่อยู่ 2 ข้างทาง และไม่ให้อยากประชาชนมองว่าโครงการนี้สร้างผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน
การเมืองท้องถิ่น
กิตติธัช ประสานชลประทาน ซ่อมถนนซอยคลองจิก เขาระกำ จ.ตราด
ผู้ประสานงานพรรคกล้าธรรม จ.ตราด ประสานชลประทาน แก้ปัญหาถนนชำรุด บรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน
นายกิตติธัช ไชยอรรถ ผู้ประสานงานพรรคกล้าธรรม (กธ) จังหวัดตราด ประสานงานเร่งด่วนไปยังโครงการชลประทานตราด หลังได้รับแจ้งปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องถนนชำรุดในพื้นที่ตำบลวังกระแจะ ด้านชลประทานส่งหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมลงพื้นที่ตรวจสอบ เตรียมนำเข้าประชาคมหมู่บ้านเพื่อวางแผนซ่อมแซมโดยเร็ว

สืบเนื่องจากนายกิตติธัช ไชยอรรถ ได้รับการประสานงานจากนางสาวจันทรัตน์ แสนสบาย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด (ส.อบจ.) ซึ่งได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ตำบลวังกระแจะ เกี่ยวกับสภาพถนนในซอยคลองจิก หมู่ที่ 10 บ้านเขาระกำ ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยถนนสายดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของโครงการชลประทาน
หลังจากรับทราบปัญหา นายกิตติธัชจึงได้ดำเนินการประสานต่อไปยังโครงการชลประทานตราดเพื่อหาแนวทางแก้ไข ซึ่งทางชลประทานได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยมอบหมายให้นายชัยกร ลุนทา หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม โครงการชลประทานตราด พร้อมทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเสียหายของถนนในเบื้องต้นแล้ว
สำหรับขั้นตอนต่อไป โครงการชลประทานตราดจะนำข้อมูลที่ได้จากการสำรวจไปใช้ประกอบการจัดทำประชาคมหมู่บ้าน เพื่อรับฟังความคิดเห็นและรวบรวมความต้องการของประชาชน ก่อนจะนำเรื่องเข้าสู่แผนงานเพื่อดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมให้ถนนสามารถกลับมาใช้งานได้ดีดังเดิมโดยเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป
การเมืองท้องถิ่น
“เท้ง” เยี่ยมชาวชำราก ชาวบ้านบอก ยังนอนผวากลัวปะทะอีกรอบ
“เท้ง” เยี่ยมชาวชำราก พบ หลายบ้านสร้างหลุมหลบภัยเอง ยังนอนผวากลัวปะทะอีกรอบ พร้อมฝาก ผู้นำฝ่ายค้าน ถึงฐับาล บริหารไม่ไหวให้ลาออก เพราะไม่เป็นตัวเป็นตน
เวลา 15.30 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย พร้อมคณะ สส. และนายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด เดินทางลงพื้นที่บ้านชำราก อ.เมือง จ.ตราด เพื่อรับฟังปัญหาภายหลังอพยพไปยังศูนย์พักพิง จากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทยกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีนายเกรียงไกร ปัญญาพงศธร นายอำเภอเมืองตราด นายภิญโญ ดีหลาย กำนันตำบลชำราก ประชาชนชาวบ้านหมู่ 2 บ้านนาเกลือ ให้การต้อนรับและพูดคุยแลกเปลี่ยน

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ถามชาวบ้าน มีความต้องการอย่างไร ชาวบ้านตอบว่า ต้องการให้มีการหยุดยิง เพราะตอนนี้ตอนกลางคืน ไม่ได้นอนหลับ 100 % ยังต้องระวัง บางครั้งยังมีโดรนอยู่ออกมา ยังไม่รู้ว่าไทยหรือของกัมพูชา ทุกคนในหมู่บ้านต้องนอนแบบพะวักพะวง และที่กลับบ้านมาในตอนนี้ก็ยังไม่เชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เสื้อผ้ายังอยู่กระเป๋า พร้อมที่จะอพยพทุกเมื่อ เพราะไม่ไว้ใจทหารกัมพูชา เขาให้หยุดยิงก็ไม่หยุดก็ยังยิงต่อ และอยากผู้นำฝ่ายค้านผ่านไปยังรัฐบาล ถ้าบริหารประเทศไม่ไหวให้ลาออกไป เพราะไม่เป็นตัวเป็นตน ประชาชนรับไม่รับ ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ไปคุยกับชาติอื่นก็ไม่รู้เรื่องเหมือนโยนกันไปกันมา
เมื่อคุยกับประชาชนเสร็จแล้ว นายณัฐพงษ์ พร้อมคณะ เดินทางไปยังบ้านประชาชนหลังหนึ่ง พบว่า หลังบ้านมีการทำหลุมหลบภัย หลุมบังเกอร์ ด้วยเงินส่วนตัว เพื่อป้องกันภัยสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจากการตรวจสอบพบบ้านประชาชนกล่าว 10 หลัง ในหมู่บ้านนาเหลือ ทยอยทำหลุมบังเกอร์ไว้ที่บ้านแล้ว
หลังจาก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย พร้อมคณะ จบการภารกิจแล้ว ได้เดินทางกลับทันที เมื่อช่วงเวลา 16.20 น.

การเมืองท้องถิ่น
พร้อมสนับสนุน Anti-Drone ชายแดนไทย ชี้เป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่
“เท้ง” ผู้นำฝ่ายค้าน หนุนงบประมาณ “Anti-Drone” ป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เร่งดันให้ทันงบปี 69
ภายหลังที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายในสภาผู้แทนราษฎรไทย พร้อมด้วย นายศักดินัย นุ่มหนู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตราด และคณะ ส.ส. พรรคประชาชน เดินทางลงพื้นที่ตราด เพื่อรับฟังข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับหน่วยงานราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับ การรับมือในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยนั้น
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ คือ การขาดแคลนยุทโธปกรณ์ เช่น Anti-Drone ภายหลังพบว่า ฝ่ายกัมพูชามีการใช้โดรนในการบินสำรวจที่ตั้งทหารของฝ่ายไทย โดยฝ่ายความมั่นคงของตราด เครื่อง Anti-Drone แล้ว แต่ไม่เพียงพอ ต่อการใช้งาน โดย สส.พรรคประชาชน เสนอให้ ทางฝั่งความมั่นคง ใช้โอกาสนี้ เร่งทำเรื่องเสนอของบประมาณในการจัดซื้อหา ระบบ Anti-Drone ทันที
นายณัฐพงษ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชว่า เชื่อว่า สส. ทุกคน ไม่ใช่เฉพาะ พรรคประชาชน พร้อมที่จะสนับสนุนยุทโธปกรณ์ ต่าง ๆ ให้กับหน่วยงานความมั่นคงในการป้องกันประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชายแดน ซึ่งตอนนี้ การรบเปลี่ยนยุคสมัยไป จะเห็นข่าวว่า มีการ บินโดรนมาจากประเทศกัมพูชารุกล้ำชายแดนของไทยเข้า เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ในการสนับสนุน เรื่องของแอนตี้โดรน (Anti-Drone) หรือ ว่า โดรนโลเคเตอร์ (Drone Location) ในการกำหนดจุด ว่าโดรนที่บินเข้ามา ถูกควบคุมสั่งการจากที่ไหนก็เป็นสิ่งสำคัญเป็นยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับโลกในอนาคต แล้วก็ในยุคปัจจุบันด้วย
เพราะฉะนั้นในส่วนของการสนับสนุนงบประมาณ ในสภาผมคิดว่าไม่น่าติดใจอะไรแล้ว แต่ว่าสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คือ งบประมาณต่าง ๆ จะต้องถูกเสนอมา โดยหน่วยงานต้นสังกัด ในพื้นที่เร่งเสนอแผนความต้องการงบประมาณ เพื่อผลักดันให้ทันในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวาระที่ 2 และ 3 ภายในเดือนนี้ เพื่อให้กองทัพมีความพร้อมในการปกป้องอธิปไตยของชาติและดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป
การเมืองท้องถิ่น
“เท้ง” ชื่นชมตราด รับมือและอพยพชาวบ้านได้ดี หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา
“เท้ง” ผู้นำฝ่ายค้าน ลงพื้นที่ตราด ชื่นชมจังหวัดตราดและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน รับมือและอพยพชาวบ้านได้ดี หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา
เวลา 11.00 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย พร้อมด้วย นายศักดินัย นุ่มหนู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตราด และคณะ ส.ส. พรรคประชาชน เดินทางลงพื้นที่ตราด เพื่อรับฟังข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับหน่วยงานราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับ การรับมือในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย โดยมีนายพีระ เอี่ยมสุนทร นายดำรงศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด หน่วยงานความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

นายพีระ เอี่ยมสุนทร รายงานว่า สถานการณพื้นที่ชายแดนตราด จังหวัดตราด กลับสู่ภาวะปกติ แล้ว หลังจากที่มีการอพยพมายังศูนย์พักพิงเมื่อคืนวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หลังจากฝ่ายความมั่นคงแจ้งให้อพยพ ซึ่งถือการข่าวมีความแม่นยำ ทำให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยปลอดภัยทุกคน ขณะที่แผนการอพยพในอนาคต ได้มีการวางแผนรับมือไว้แล้ว หากเกิดสถานการณ์ว้ำขึ้นมาอีก
หลังจบการประชุมแล้ว นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลว่า ขอชื่นชมจังหวัดตราด ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่ดูแลความปลอดภัยของประชาชนจากสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนที่ผ่านมา ซึ่งการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวดำเนินการไปได้ด้วยดี และปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายลงจนสามารถปิดศูนย์พักพิงและส่งประชาชนกลับสู่ภูมิลำเนาได้ตามปกติแล้ว ซึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาและแก้ไขอย่างเร่งด่วนในระยะยาวคือ ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในหลายภาคส่วนของจังหวัดตราด ไม่ว่าจะเป็นภาคการเกษตร, การประมง, การท่องเที่ยว และการค้าชายแดน นอกจากนี้ยังมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ทวีความรุนแรงขึ้น
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หน้าที่ของเรา คือ การมารับฟังปัญหาและรวบรวมข้อเสนอแนะส่งต่อไปยังรัฐบาล เพื่อให้ออกแบบนโยบายและมาตรการช่วยเหลือได้อย่างตรงจุดที่สุด ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละส่วนมีความต้องการต่างกัน บางส่วนต้องการแรงงาน บางส่วนต้องการให้รัฐช่วยหาตลาดใหม่ๆ หรือบางส่วนต้องการแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โจทย์ คือ การมองไปข้างหน้าเพื่อลดผลกระทบปัญหาปากท้องของประชาชนให้ได้มากที่สุด
-
สังคม5 เดือน agoหวยสัญจรตราด เตรียมออกสลากสัญจรฯ งวด 1 กันยายน 68
-
อาชญกรรม3 เดือน agoแม่น้ำตาไหล แจ้งตำรวจช่วยพาลูกไปบำบัดยาเสพติด รอบที่ 3
-
สังคม3 เดือน agoHummel ทำไมแบรนด์กีฬาระดับโลก ถึงเลือก “ตราด เอฟซี”
-
อาชญกรรม2 เดือน agoกระบะคว่ำ โชคดีปลอดภัย โชคร้ายถูกจับเพราะเจอยาไอซ์ในรถ
-
Uncategorized3 เดือน agoตราดรวบแก็งลักลอบตัดไม้สวนป่าห้วยแร้ง จับได้ 2 คน อีก 2 คน
-
ท่องเที่ยว3 เดือน agoเกาะช้างกระทบ เหตุปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา นักท่องเที่ยวหาย 90 %
-
สังคม3 เดือน agoตราดเอาจริง! เปิดปฏิบัติการ “สัปดาห์สีแดง” กวาดล้างยาเสพติด
-
อาชญกรรม3 เดือน agoตำรวจเมืองตราด-ตชด.117 รวบ นาย ก ไก่ เอเย่นต์ยาเสพติดพร้อมยึดทรัพย์
