Connect with us

อาชญกรรม

ตำรวจ ทหาร จับ 2 ผู้ต้องหาลักลอบขนบุหรี่เถื่อนจากกัมพูชา

Published

on

2 ผู้ต้องหาลักลอบขนบุหรี่เถื่อนจากกัมพูชา ใช้รถ 2 คัน คันแรกเปิดทาง คันสองขนของกลางเต็มรถ แต่ไปไม่รอดถูกรวบคาค่านความมั่นคง ตรวจพบบุหรี่ต่างประเทศหนีภาษีกว่า 40,000 ซอง แถมเจอยาบ้า ส่วน 2 คนขับตรวจเจอฉี่ม่วง

(4 สิงหาคม 2568) สถานีตำรวจภูธรบ้านท่าเลื่อน รายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 3 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านท่าเลื่อน ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ฉก.นย.ตราด) ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนบุหรี่หนีภาษีจากชายแดนเข้ามาในพื้นที่ โดยใช้รถกระบะ 2 คัน คันหนึ่งเป็นรถนำทางเพื่อสังเกตการณ์ และอีกคันใช้ในการขนส่งสินค้า เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนสกัดจับ โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เข้าประจำจุดตรวจบ้านเนินสูงและออกลาดตระเวนในพื้นที่ ต.ตะกาง อ.เมืองตราด

กระทั่งเวลา 23.05 น. เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีแดง หมายเลขทะเบียน 4ขผ 7953 กรุงเทพมหานคร ต้องสงสัยว่าเป็นรถนำทาง จึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจสอบ พบนายเกียรติศักดิ์ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดจันทบุรี เป็นผู้ขับขี่ มีท่าทีพิรุธกระวนกระวาย จากการตรวจค้นเบื้องต้นพบยาเสพติด (ยาบ้า) นายเกียรติศักดิ์จึงยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ขับรถนำทางจริง

ในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 ได้พบรถยนต์กระบะตอนเดียวมีแซง ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผข 5087 จันทบุรี จอดอยู่ริมทาง จึงเข้าตรวจสอบ พบนายทรงพล อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้ขับขี่ จากการตรวจสอบภายในรถพบบุหรี่ต่างประเทศหนีภาษีจำนวนมาก

นายทรงพลให้การรับสารภาพว่า ตนและนายเกียรติศักดิ์ได้ร่วมกันรับจ้างขนบุหรี่หนีภาษีมาแล้วหลายครั้ง โดยตนทำหน้าที่ขับรถขนของ ส่วนนายเกียรติศักดิ์ทำหน้าที่ขับรถนำเพื่อดูเส้นทางและตรวจสอบด่านของเจ้าหน้าที่

โดยของกลางที่ยึดได้ คือ บุหรี่ซิกาแร็ตต่างประเทศ หลากยี่ห้อ รวม 40,000 ซอง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 16 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ 1 ชุด (พบในรถของนายทรงพล) รถยนต์กระบะ ที่ใช้ในการกระทำความผิด จำนวน 2 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขยายผลต่อไป

นอกจากนี้ ผลการตรวจปัสสาวะของนายทรงพล ซึ่งได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลตราด เช้าวันนี้ พบสารเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) ในร่างกาย แจ้งข้อหาหนัก ดำเนินคดีตามกฎหมาย

บื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้งสอง ดังนี้

นายทรงพล (ผู้ต้องหาที่ 1) ถูกแจ้งข้อหา 5 กระทง ประกอบด้วย
1.ผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)
2.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)
3.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
4.ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย หรือรับไว้ซึ่งของที่รู้ว่าหนีภาษีศุลกากร
5.ร่วมกันมีไว้เพื่อขายและครอบครองสินค้า (บุหรี่) ที่มิได้เสียภาษี

นายเกียรติศักดิ์ (ผู้ต้องหาที่ 2) ถูกแจ้งข้อหา 2 กระทง ประกอบด้วย
1.ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย หรือรับไว้ซึ่งของที่รู้ว่าหนีภาษีศุลกากร
2.ร่วมกันมีไว้เพื่อขายและครอบครองสินค้า (บุหรี่) ที่มิได้เสียภาษี

อาชญกรรม

ตำรวจตราด จับ 10 ชาวจีน พบมือถือ 48 เครื่อง

Published

on

รวบ 10 ชาวจีน ซุกรีสอร์ทหาดบานชื่น ตะลึงเจอมือถือ 48 เครื่อง ไร้พาสปอร์ต คาดแก๊งสแกมเมอร์หนีจากเมียนมาร์

(2 พฤศจิกายน 2568) – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 8.00 น. พ.ต.ท.พิชิต พื้นแสน สวญ.สภ.ไม้รูด จ.ตราด ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจ เข้าตรวจสอบรีสอร์ทแห่งหนึ่งริมหาดบานชื่น ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด หลังได้รับแจ้งเบาะแสบุคคลต่างชาติต้องสงสัยเข้าพัก ผลการตรวจสอบสามารถควบคุมตัวชายชาวจีนได้ 9 ราย พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 48 เครื่อง โดยทั้งหมดไม่มีเอกสารเดินทางหรือหนังสือเดินทางแม้แต่รายเดียว

พ.ต.ท.พิชิต เปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจาก น.ส.สมใจ (ไม่ทราบนามสกุล) ว่ามีกลุ่มคนจีนต้องสงสัยมาเปิดห้องพักอาศัยอยู่ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบชายชาวจีนทั้ง 9 คน กำลังนอนพักอยู่ในห้องพักใหญ่แบบ 2 ห้องนอน สภาพภายในห้องค่อนข้างรก มีเศษอาหาร ขนม กองอยู่จำนวนหนึ่ง และมีกลิ่นบุหรี่คละคลุ้งไปทั่วทั้งสองห้อง จากการตรวจค้น พบโทรศัพท์มือถือมากถึง 48 เครื่อง จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมของกลางไปยัง สภ.ไม้รูด

อย่างไรก็ตาม การสอบสวนเบื้องต้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยได้ พูดได้เพียงภาษาจีนเท่านั้น ต่อมา ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ตราด และ พ.ต.อ.กิตติพรธร เป้าเปี่ยมทรัพย์ ผกก.ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตราด ได้ส่งล่ามภาษาจีนและเจ้าหน้าที่ ตม. เข้ามาร่วมสอบปากคำ

จากการสอบปากคำผ่านล่าม ทราบข้อมูลเบื้องต้นจากหนึ่งในผู้ต้องหาชื่อ นายเสี่ยว เฉิน อายุ 26 ปี อ้างว่ามาจากมณฑลยูนนาน ถูกส่งตัวมาที่ จ.ตราด และกำลังรอคนมารับไปต่อ

แหล่งข่าวจากชุดจับกุมให้ข้อมูลว่า กลุ่มคนจีนเหล่านี้น่าจะเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ เว็บพนัน และแก๊งสแกมเมอร์ โดยคาดว่า ทั้งหมดได้หลบหนีมาจาก “เค เค ปาร์ค” (KK Park) ในพื้นที่ประเทศเมียนมาร์ และลักลอบเข้ามายังประเทศไทย โดยมีเครือข่ายคนไทยคอยช่วยเหลือในการเดินทาง เพื่อเตรียมลักลอบนั่งเรือหนีต่อไปยังประเทศกัมพูชา แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน

เมื่อตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ 48 เครื่องที่ยึดได้ พบแอปพลิเคชันต้องสงสัยจำนวนมาก ทั้งแอปฯ พนันออนไลน์, แอปฯ ฟอกเงิน และแอปฯ อื่นๆ ที่เชื่อว่าใช้ในการหลอกลวง นอกจากนี้ ยังพบว่าข้อมูลบางส่วนในโทรศัพท์ถูกลบออกไป คาดว่าเป็นการพยายามทำลายหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังผู้ดูแลรีสอร์ท ทราบว่า ก่อนหน้านี้มีคนไทยขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ 1 คัน และรถตู้ 1 คัน (ป้ายทะเบียนกรุงเทพฯ ทั้งคู่) มาจองห้องพัก 2 ห้อง โดยจ่ายค่าที่พักและค่าอาหารไว้ล่วงหน้าทั้งหมด แต่ไม่ยอมให้บัตรประชาชนไว้ โดยอ้างว่าจะมีกลุ่มเพื่อนตามมาพักในภายหลัง

การจับกุมครั้งนี้ได้รับความสนใจจากหลายหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งฝ่ายทหารจากหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ฉก.นย.ตราด), ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3, ตำรวจสันติบาล และหน่วยงานข่าวต่างๆ ที่ส่งเจ้าหน้าที่มาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชาวจีนทั้ง 9 คนไว้ เพื่อขยายผลหาเครือข่ายที่เกี่ยวข้องและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Continue Reading

อาชญกรรม

คลองใหญ่ บุกจับบุหรี่เถื่อน 50,000 ซอง ได้ผู้ต้องหา 1 คน

Published

on

ทหาร ตำรวจ สรรพสามิต บุกค้นห้องเช่า พบบุหรี่เถื่อนเกือบ 50,000 ซอง จับผู้ต้องหา 1 คน กำลังแพ็คบุหรี่ส่งให้ลูกค้า โดนค้าปรับเกือบ 47 ล้านบาท

ฝ่ายปกครองอำเภอคลองใหญ่ ,ทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 ตราด , ตำรวจ สภ.คลองใหญ่ ร่วมกับสรรพสามิตพื้นที่ตราด บุกตรวจสอบห้องเช่า ภายในหมู่บ้านคลองมะขาม ม.1 ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด หลังได้รับแจ้งจากสายว่า มีการซุกซ่อนบุหรี่หนีภาษีหรือบุหรี่จำนวนมาก

จากการเข้าตรวจสอบ พบ นางภัชระดา อายุ 45 ปี ที่กำลังบุหรี่เถื่อน เตรียมส่งทางไปรษณีย์ จากนั้นขยายผลเข้าตรวจค้นห้องเช่าในจุดที่ 2 ยังพบบุหรี่เถื่อนซุกซ่อนอีกเป็นจำนวนมาก

เบื้องต้นของกลางทั้งหมด ทั้งหมด 49,890 ซอง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา นางภัชระดา ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี และ มีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี โดยจะถูกปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 46,996,380 บาท

Continue Reading

อาชญกรรม

กระบะคว่ำ โชคดีปลอดภัย โชคร้ายถูกจับเพราะเจอยาไอซ์ในรถ

Published

on

By

กระบะลื่นน้ำบนถนน เสียหลักพลิกคว่ำบาดเจ็บ 4 ราย โชคดีกู้ภัยช่วยเหลือปลอดภัย แต่โชคร้ายถูกตำรวจจับ เพราะเจอยาในรถ

            เวลา 6.35 น. วันที่ 14 กันยายน 2568 ร.ต.อ.บุญมา ทาทอง พนักงานสอบสวนสภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุบนถนนสาย 3 สุขุมวิท ใกล้เคียงวัดวิเวกวาราม ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมประสานกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด เดินทางสนับสนุนที่เกิดเหตุ

           

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ โตโยต้า รีโว หมายเลขทะเบียน บร 4712 เพชรบุรี ภายในรถพบผู้บาดเจ็บ 4 ราย โดยรายที่ 4 ชื่อ ติดอยู่ภายในรถ บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถได้สำเร็จ

นอกจากนี้ตำรวจยังพบยาเสพติด ยาไอซ์  1 ห่อ ไม่ทราบน้ำหนัก เครื่องชั่ง ถุงซิปจำนวนมาก และอุปกรณ์การเสพ

           

เบื้องต้นจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของตำรวจ พบว่า รถกระบะคันนี้กำลังมุ่งหน้าไปทางอำเภอคลองใหญ่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเสียหลักลื่นน้ำบนถนน หลังจากมีฝนตกลงมา จนทำให้รถเสียหลักหมุนตกถนน และเมื่อตรวจสอบภายในรถก็พบว่ามียาเสพติด ประเภท 1 ยาไอซ์ พร้อมของกลางทั้งหมดเป็นหลักฐาน พร้อมอายัดตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 4 ราย ที่กำลังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตราด เพื่อเตรียมดำเนินคดีตาม พรบ.ยาเสพติดต่อไป

Continue Reading

อาชญกรรม

แม่น้ำตาไหล แจ้งตำรวจช่วยพาลูกไปบำบัดยาเสพติด รอบที่ 3

Published

on

แม่น้ำตาไหล แจ้งตำรวจช่วยพาลูกไปบำบัดยาเสพติด หลังมีอาการคลุ้มคลั่ง จุดไฟ ถือมีดเดิน ตำรวจถึงบ้านยอมโดยดีให้พาไปบำบัด แม่ เผย เป็นรอบที่ 3 แล้ว เพื่อนบ้านกังวลไม่ปลอดภัย

          เวลา 10.30 น. วันที่ 25 สิงหาคม 2568 สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด ได้รับแจ้งมีเหตุชายคลุ้มคลั่ง ที่บ้านเช่าหลังหนึ่งใกล้เคียงวัดวรดิตถาราม ม.1 ต.วังกระแจะ อ.เมือง หลังรับแจ้งประสาน ร.ต.อ.จตุรงค์ ต่างหู หัวหน้าตำรวจสาย สภ.เมืองตราด พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจ นายราเชนทร์ ชอบรส ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1  และ อาสากู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด โดยมีเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจังหวัดตราด ร่วมสนับสนุนที่เกิดเหตุ

            ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ที่ต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 50 เมตร โดยตำรวจนำอุปกรณ์ไม้ง่ามพร้อมโล่กันบัง เพื่อเตรียมชาร์ทตัว เมื่อตำรวจเดินไปถึงหน้าประตูบ้านได้ตะโกนเรียกชื่อนายเอก (อายุ 39 ปี) ให้ออกมาจากบ้าน ซึ่งนายเอก ยินยอมและออกมาจากบ้านแต่โดยดี เบื้องต้นพบว่า อยู่ในอาการคล้ายเหมือนเสพยาเสพติด สายตาแข็ง มีกำไร EM คล้องข้อเท้าขวาอยู่ เนื่องจากอยู่ในการคุมประพฤติ หลังถูกจับคดีเสพยาเสพติด

           

จากนั้น ร.ต.อ.จตุรงค์ ได้แจ้งกับนายเอก ว่า จะพาไปรักษาที่โรงพยาบาลตราด ซึ่งนายเอกก็ยินยอมและออกไปขึ้นกู้ภัยทันที โดยมีตำรวจคุมตัวอย่างใกล้ชิด ขณะเจ้าหน้าที่คุมประพฤติให้ข้อมูลว่า หลังได้รับแจ้งจากตำรวจแล้ว ทางคุมประพฤติได้ใช้มาตรา 39  (4) วิธีการเพื่อความปลอดภัยกับนายเอก คือ การคุมไว้ในสถานพยาบาล เนื่องจากนายเอก เป็นผู้ป่วยที่ต้องรับการบำบัด

            ขณะที่แม่นายเอก อายุ 65 ปี กล่าวว่า  บ้านหลังนี้เป็นบ้านเช่าที่เช่าไว้ให้ลูกชายได้พักอาศัยหลังจากอยู่ในการคุมประพฤติ และตนเองเพิ่งมาอยู่กับลูกชายได้ 2 วัน ก็พบว่า ลูกชายมีอาการเหมือนคนเสพยาเสพติด เดินทั้งวันทั้งคืนถือมีดเดินรอบบ้าน และ จุดไฟ กลัวบ้านจะถูกไฟไหม้ ซึ่งสาเหตุมาจากอาการหลอน เพราะเคยเสพยาเสพติด และรักษาอาการมาแล้ว 2 ครั้ง จนมีอาการดีขึ้น

และช่วงหลังเริ่มมีเพื่อน ก็เริ่มติดยาเสพติดอีกรอบ ซึ่งวันนี้ตนเองเป็นผู้แจ้งตำรวจเอง เพื่อให้พาลูกชายไปบำบัดอีกครั้ง และ 2 ครั้งที่ผ่าน ตนเองก็เป็นคนแจ้ง อยากให้ลูกไปบำบัด อยากให้ลูกหาย เพราะตนเองแก่แล้ว เป็นเส้นเลือดในสมองตีบด้วย ลูกชายก็ยังมีลูกอีก 2 คน ที่ต้องเลี้ยง เพราะแม่ทำอะไรไม่ได้ ต้องการให้ลูกหายดี

           

เพื่อนบ้านวัย 68 ปี กล่าวว่า นายเอก มีการอาการหลอนติดยาเสพติดมาตั้งแต่อยู่ที่อำเภอคลองใหญ่แล้ว เมื่อย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ยังมีอาการหลอนยาเสพติด อาระวาด แหกปาก ร้องโวยวาย ชาวบ้านในพื้นที่มีความกลัวเป็นอย่างมาก ไม่อยากให้นายเอกอยู่ในลักษณะแบบนี้ เพราะอันตราย เกรงว่าจะทำร้ายเด็ก และที่ผ่านมานายเอก ก็เคยมีพฤติกรรมที่จะใช้ขวานฟันคอหลานตนเอง แต่โชคดีที่ตนเองและลูกเขยช่วยเอาไว้ได้ไม่ได้รับอันตรายอย่างใด เพราะนายเอก เคยใช้มีดฟันแมวจนหัวหลุดกระเด็นมาแล้ว

          

  ส่วนนายราเชนทร์ กล่าวว่า หลังจากจะต้องเวียนมาดูนายเอกบ่อย ๆ หลังจากเข้ารับการบำบัดแล้ว หากยังมีการอาการหลอนจะส่งตัวไปยัง รพ.สต.บ้านท้ายวัง เพราะเข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อ อีกส่วนหนึ่งจะต้องติดตามว่า แม่นายเอก จะสามารถทำให้นายเอกกินยารักษาได้ตามที่หมอสั่งหรือไม่ ส่วนความหวาดกลัวของชาวบ้านนั้น ก็ต้องยอมรับว่า ชาวบ้านไม่อยากให้นายเอกอยู่แล้ว แต่ได้กำชับให้ชาวบ้านระวังตัวมากขึ้น  สังเกตอาการนายเอก หากมีท่าไม่ดีให้แจ้ง 191 หรือผู้ใหญ่บ้านก็ได้ เพื่อให้เข้าระงับเหตุได้ทันท่วงที

Continue Reading

Trending

Copyright © 2553 สำนักข่าวตราดทีวีออนไลน์ เว็บไซต์ข่าวจังหวัดตราด